คดีความ
บริษัท เอบีซี เอเชี่ยน ลีเกิ้ล เซอร์วิส จำกัด มีประสบการณ์ในการจัดการคดีแพ่งทั่วไป การละเมิดสัญญา ข้อพิพาทด้านอสังหาริมทรัพย์ ข้อพิพาทด้านการประกันภัย เรื่องการทวงถามหนี้ คดีภาษีอากร การร่วมทุนและข้อพิพาทด้านใบอนุญาต ข้อพิพาทหุ้นส่วนและผู้ถือหุ้น การดำเนินคดีความรับผิดต่อผลิตภัณฑ์ การดำเนินคดีแบบกลุ่ม การเรียกร้องค่าเสียหายจากการหมิ่นประมาท เราเชี่ยวชาญทางด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
โดยทั่วไป กระบวนการทางแพ่งเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง อย่างไรก็ตาม มีศาลเฉพาะทาง เช่น ศาลแรงงานหรือศาลล้มละลาย อาจมีกฎขั้นตอนพิเศษเฉพาะของตนเองที่ใช้เฉพาะกับศาลนั้นๆ เท่านั้น
บุคคลที่เริ่มดำเนินคดีทางแพ่งต้องยื่นคำร้องเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลที่เหมาะสมในชั้นต้น โดยระบุลักษณะการเรียกร้องของตนและข้อกล่าวหาที่เป็นฐานของข้อเรียกร้องไว้อย่างชัดเจน จำเลยต้องยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาล โดยระบุให้ชัดเจนว่าข้อเรียกร้องของโจทก์ส่วนใดที่ยอมรับและส่วนใดที่ปฏิเสธ
การดำเนินคดีในศาลทั้งหมดจะต้องดำเนินการเป็นภาษาไทย ยกเว้นในศาลเฉพาะทาง เช่น ทรัพย์สินทางปัญญาและศาลการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งศาลอาจอนุญาตให้ดำเนินการพิจารณาคดีเป็นภาษาอังกฤษได้ เอกสารที่จัดทำเป็นภาษาต่างประเทศจะต้องแปลเป็นภาษาไทย อนุญาตให้ใช้เฉพาะเอกสารต้นฉบับเป็นหลักฐานเท่านั้น
คำพิพากษาใด ๆ ของศาลชั้นต้นอาจถูกอุทธรณ์โดยฝ่ายที่ได้รับคำพิพากษาหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในคดีที่ไม่พอใจกับคำพิพากษา ในศาลแพ่งไม่สามารถอุทธรณ์ได้ในกรณีเกี่ยวกับเงินหรือทรัพย์สินที่มีจำนวนเงินที่โต้แย้งน้อยกว่า 20,000 บาท
ต้องยื่นอุทธรณ์เป็นหนังสือยื่นต่อศาลในชั้นต้นภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันที่มีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นจะโอนคดีไปยังศาลอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์จะตัดสินตามเอกสารที่ส่งโดยศาลชั้นต้น คำร้องอุทธรณ์ และคำตอบของผู้อุทธรณ์ต่อคำร้องอุทธรณ์เท่านั้น
เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแล้ว ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาได้
อุทธรณ์ศาลฎีกาต่อศาลฎีกาได้เฉพาะในประเด็นกฎหมายที่มีข้อพิพาทในคดีเกี่ยวกับเงินหรือทรัพย์สินเกิน 50,000 บาท ศาลฎีกาจะพิจารณาอุทธรณ์ คำตัดสินของศาลจะขึ้นอยู่กับคำร้องอุทธรณ์และเอกสารอื่น ๆ ที่เป็นลายลักษณ์อักษรที่ส่งโดยศาลชั้นล่างเท่านั้น คำพิพากษาของศาลฎีกาถือเป็นที่สิ้นสุด